SLAและ FDM เป็นเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดสองเทคโนโลยี และถูกนำมาใช้ในทุกแง่มุมของการผลิตทางอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ คงต้องอยากรู้ว่าเทคโนโลยีใดดีกว่ากัน ระหว่าง SLA หรือ FDMการพิมพ์ 3 มิติ? ควรเลือกอย่างไรดี? บทความต่อไปนี้จะมาเผยคำตอบให้คุณค่ะ
โดยรวมแล้ว ลูกค้าเลือกใช้ทั้ง SLA และ FDM อย่างกว้างขวาง ความแตกต่างในด้านรุ่น วัสดุ รายละเอียด และต้นทุนการพิมพ์ของทั้งสองเทคโนโลยีนี้ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเลือกของลูกค้า
1. วัสดุ
วัสดุที่ใช้ในการการพิมพ์ 3 มิติ SLAเป็นเรซินไวแสงหลายประเภท เช่น เรซินชนิด ABS เรซินชนิด PMMA เรซินชนิดยาง และเรซินชนิด PP เรซินเหล่านี้เป็นของเหลว และมีความแตกต่างกันอย่างมากในด้านความเหนียว ความแข็งแรง ความเหนียว และการส่งผ่านแสง
วัสดุการพิมพ์ 3 มิติแบบ FDM ประกอบด้วยเส้นใยหลากหลายชนิด เช่น ABS, PLA, PETG, TPU, PC และไนลอน
2. ต้นทุนการพิมพ์
เนื่องจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติ SLA วัสดุ และต้นทุนการบำรุงรักษาสูงกว่าการพิมพ์ 3 มิติ FDM ดังนั้นราคาการพิมพ์ SLA จึงสูงกว่า FDM มาก
3. คุณภาพสินค้า
โมเดลการพิมพ์ 3 มิติ SLA มีพื้นผิวเรียบ ความแม่นยำสูง และรายละเอียดที่ดี อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อเสียคือค่อนข้างเปราะบาง ทนต่ออุณหภูมิต่ำ และไม่เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง
ผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์แบบ FDM 3 มิติมีข้อดีคือมีความแข็งแรงสูง ทนต่ออุณหภูมิสูง และเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมกลางแจ้ง แต่พื้นผิวมีความขรุขระและไม่สามารถแสดงรายละเอียดได้ดี
เราควรพิจารณาสภาพแวดล้อมการใช้งานของผลิตภัณฑ์ ความต้องการด้านประสิทธิภาพ และต้นทุนอย่างครอบคลุม และสุดท้ายเลือกสิ่งที่เหมาะสมเทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ.
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อฝ่ายขายมืออาชีพของเรา.
ผู้สนับสนุน: Henry / Lili Lu / Seazon
